ทสสหัสสเถรีอปทานที่ 9 (29)ว่าด้วยบุพจริยาของพระเถรี 10,000 รูป[169] ในสี่อสงไขยแสนกัป พระ- พิชิตมารผู้เป็นนายกของโลกพระนามว่าทีปังกร เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว พระพุทธทีปังกรมหาวีรเจ้าผู้ เป็นนายกชั้นพิเศษ ทรงพยากรณ์ว่า สุเมธบัณฑิต กับนางสุมิตตามีสุขและทุกข์ร่วมกัน เมื่อเสด็จเที่ยวทรงดูโลกกับทั้งเทวโลก เสด็จเข้ามาสู่สมาคมแห่งหม่อมฉันทั้งหลาย ใน การทรงพยากรณ์สุเมธบัณฑิตและนางสุมิตตานั้น สุเมธบัณฑิตย่อมเป็นใหญ่กว่าชนทั้งปวง ในสมาคมอนาคตแห่งหม่อมฉันทั้งหลาย ภรรยา ทั้งหมด กล่าววาจาเป็นที่รักเป็นที่พอใจแห่งท่าน ข้าแต่พระมหามุนี ทาน ศีลทั้งปวงและ ภาวนาที่บำเพ็ญดีแล้ว ทานทั้งปวงนี้ คือ ของ หอม ดอกไม้ เครื่องลูบไล้ ประทีป และทาน วัตถุอันสำเร็จด้วยรัตนะ หม่อมฉันทั้งหลายบริจาค แล้วตลอดกาลนาน. ข้าแต่พระมหามุนีฐานะอย่างใดอย่างหนึ่ง หม่อมฉันทั้งหลายปรารภไว้แล้ว ทานทั้งปวง พวกหม่อมฉันบริจาคแล้ว ข้าแต่พระมหามุนี กุศลกรรมอย่างอื่น หม่อมฉันทั้งหลายเผากิเลสทั้งหลายแล้ว อัฏฐารสหัสสเถรีอปทานที่ 10 (30)ว่าด้วยบุพจริยาของพระเถรี 18,000 รูป[170] ภิกษุณีที่มีสมภพในศากิยสกุล 18,000 มีพระยโสธราเถรีเป็นประธาน เข้าเฝ้า พระสัมพุทธเจ้า ภิกษุณีทั้ง 18,000 ล้วนแต่ผู้มี ฤทธิ์ ถวายบังคมพระยุคลบาทแห่งพระมุนี ได้ กราบทูลตามกำลังว่า ข้าแต่พระมหามุนีผู้นายก หม่อมฉัน ทั้งหลายมีชาติ ชรา พยาธิและมรณะสิ้นแล้ว ย่อมถึงอมตบทอันสงบ ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระ มหามุนีผู้เป็นนายกชั้นพิเศษ ประชาชนย่อมรู้ ความผิด คือ ความพลั้งพลาดที่มีในก่อนของ หม่อมฉันทั้งปวง ขอพระองค์โปรดประทานอภัย โทษแก่หม่อมฉันทั้งหลายเถิด. |